การเขียนบทนำรายงานนั้นในส่วนของย่อหน้าแรกเราควรเขียนเพื่อเกริ่นเนื้อเรื่องไปก่อนโดยยังไม่เข้าเนื้อเรื่อง แต่ควรพยายามพูดชักจูงให้ผู้อ่านสนใจ หรือพูดที่มาที่ไป ก่อน เพื่อให้ผู้อ่านอยากติดตามต่อส่วนต่อมาควรกล่าวเริ่มเข้าเนื้อเรื่องของเราว่าเราจะทำรายงานเกี่ยวกับอะไร และมีเรื่องอะไรบ้าง หรือพูดถึงเฉพาะเรื่องสำคัญๆ ก็ได้ และตอนสุดท้ายก็ปิดท้ายว่าทำเพื่ออะไรเพื่อประโยชน์กับใคร ที่จะได้มาอ่านบทความนี้และก็อาจกล่าวขอบคุณอาจารย์ผู้สอนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายงาน และปิดท้ายด้วยการขอรับข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้รายงานดีขึ้น
บทที่ 2 รายละเอียดของโครงงาน
เป็นการเขียนข้อสรุปที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงงาน โดยการสรุปเป็นองค์ความรู้ของตนเอง หรือคัดลอกข้อความจากหนังสือ โดยถ้าเป็นการสรุปองค์ความรู้เป็นของตนเอง ต้องอ้างอิงเอกสารที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมท้ายเล่มรายงาน แต่ถ้าเป็นการคัดลอกข้อความนั้นมา โดยไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหา ให้อ้างอิงในการเขียนด้วย ซึ่งการอ้างอิงที่เป็นที่นิยมคือ การอ้างอิงแบบนาม – ปี และควรระบุเลขหน้าไว้ด้วย จากนั้นต้องอ้างอิงในเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมท้ายเล่มรายงานด้วยเช่นกัน
บทที่ 3 หลักการและทฤษฎี
เป็นการเขียนข้อสรุปที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงงาน โดยการสรุปเป็นองค์ความรู้ของตนเอง หรือคัดลอกข้อความจากหนังสือ โดยถ้าเป็นการสรุปองค์ความรู้เป็นของตนเอง ต้องอ้างอิงเอกสารที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมท้ายเล่มรายงาน แต่ถ้าเป็นการคัดลอกข้อความนั้นมา โดยไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหา ให้อ้างอิงในการเขียนด้วย ซึ่งการอ้างอิงที่เป็นที่นิยมคือ การอ้างอิงแบบนาม – ปี และควรระบุเลขหน้าไว้ด้วย จากนั้นต้องอ้างอิงในเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมท้ายเล่มรายงานด้วยเช่นกัน
บทที่ 4 วิธีการดำเนินการ
อธิบายขั้นตอนการดำเนินการหรือขั้นตอนการทดลองโดยละเอียด
บทที่ 5 ผลที่ได้รับจากโครงงาน
ผลที่ได้จากการศึกษา เขียนตามวัตถุประสงค์ ควรจะเสนอในรูปแบบตาราง กราฟ แผนภูมิ หรืออื่นๆให้ดูง่าย
บทที่ 6 บทสรุปและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษา ให้เขียนผลการศึกษาอย่างสั้นๆ ให้ได้ใจความตรงตามจุดประสงค์ของการศึกษา ถ้ามีการตั้งสมมุติฐาน ควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้มา สนับสนุนหรือคัดค้านสมมุติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ข้อเสนอแนะ ควรเขียนในลักษณะเสนอแนะวิธีการปรับปรุงการทดลองให้ดีขึ้น
บทที่ 7 ประโยชน์และแนวคิดในการพัฒนาโครงงาน
ให้บอกประโยชน์ที่ได้จากการทดลอง หรือจากการศึกษาเรื่องนั้นๆว่ามีประโยชน์อะไร ด้านไหน ให้เขียนเป็นข้อๆไป
บทที่ 8 บรรณานุกรมและภาคผนวก
บรรณานุกรมหรือหนังสืออ้างอิงหรือเอกสาร และเว็บไซต์ต่างๆ ที่นักเรียนใช้ค้นคว้า ศึกษาหาข้อมูล ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำโครงงานนี้ รูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิงที่ใช้ในการทำโครงงานมีการเขียนได้หลายรูปแบบ ( ศึกษาได้จากรูปแบบการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรมท้ายตอนนี้) ภาคผนวก คือ ส่วนประกอบที่เขียนเพิ่มเติมในตอนท้าย เพื่อช่วยให้เห็นความสมบูรณ์ ในข้อมูลเนื้อหา กระบวนการดำเนินงานและผลของการวิจัย อาจประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติที่เกี่ยวข้องอื่น นอกเหนือจากส่วนที่จัดไว้ในเนื้อหา สำเนาเอกสารหายาก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ นอกจากนี้อาจมีรายละเอียดอื่น ๆ เช่น คำอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอน หรือวิธีทำภาพประกอบ การสร้างเครื่องมือหรืออุปกรณ์การทดลอง ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นหรือสร้างขึ้นในโครงงานนั้น ๆ สำหรับกรณีมีภาคผนวกหลายภาค ให้จัดเป็นภาคผนวก ก ภาคผนวก ข และภาคผนวก ค ตามลำดับ และให้ขึ้นหน้าใหม่เมื่อขึ้นภาคผนวกใหม่ และพิมพ์หน้าบอกตอนสำหรับภาคผนวกนั้น ๆ ด้วย
บทที่ 9 คู่มือการใช้งาน
ได้แก่ รายละเอียดในการทำภาระงาน ชิ้นงาน หรือกิจกรรมอิสระที่ได้จากการทำโครงงานไปใช้ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ทรัพยากรหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน และข้อเสนอแนะในการใช้โครงงานนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น